บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2014

เร่งรีบทำงานไม่ใช่ความคิดที่ดี

เรา รู้ว่าการผัดวันประกันพรุ่งเป็นเรื่อง ไม่ มีประสิทธิผล แต่ไม่ใช่การผลักงานประจำให้พ้นตัวไป หรือ พยายาม ที่ จะ ทำงานเสร็จ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะจบ ๆ งานให้เสร็จ สมบูรณ์   พวกเราส่วนมากใช้การผลักงานให้เสร็จพ้นตัวไป เพราะตลอดเวลาที่จะต้องปิดงานให้แล้วเสร็จ จะทำเพื่อไม่ให้ภาระงานรกสมองของ เรา บ่อยครั้งแค่ไหน ที่คุณเร่งรีบให้งานบางอย่างเสร็จ แล้วกลับพบว่าต้อง ย้อนกลับ ไป แก้ไข ข้อผิดพลาด บ่อยครั้งที่คุณมักจะหาเรื่องง่าย ๆ ทำก่อน หรือ คุณ ทุ่มเท เวลา เพื่อทำเรื่องที่มีความ หมายมาก ที่สุด ของคุณ   คุณ เคย ใช้เวลา ทั้ง วันเพื่อ ตอบ อีเมล์   แล้วพบว่าตอนนี้เป็นเวลา 17.00 น  แล้ว และ คุณ ยังไม่ได้เริ่ม ทำ งานอย่าง ใดเลย  จริง หรือไม่ แม้ว่างาน เหล่านี้จะทำให้รู้สึกว่ามีผลผลิต ใน ระยะ สั้น แต่การเร่งรีบทำงานให้เสร็จบางเรื่องบางงาน เสียเวลาเปล่าเพราะต้องกลับมาแก้ไข/ปรับปรุง แทนที่ จะ กระตือรือร้น ที่ จะทำงานให้เสร็จ อย่างรวดเร็ว   เน้นที่การทำงานที่ถูกต้องแม้ว่าจะช้าแต่ว่า ดีกว่า The Management Tip of the Day from Harvard Business Review October 22, 2014

ทำให้ผู้เจรจาต่อรองหลายฝ่ายเข้ากันให้ได้

การเจรจาต่อรองในหลายเรื่องจะมีผู้ร่วมเจรจามากกว่า สอง ฝ่าย และทุกฝ่ายจำเป็นต้องเห็นพ้องกันเกี่ยวกับ การ แก้ปัญหา   แต่การที่มี คนหลายคน หมายความถึงว่า มีผลประโยชน์/ความสนใจที่ต้องการตอบสนองมากขึ้น มีทาง เลือก เพิ่มเติม ในการ ลำดับความสำคัญ และ ทางเลือก เพิ่มเติมอีกมาก ในการ พิจารณา   ดังนั้น  การจะ ทำให้ ทุกคนเห็นพ้องด้วยต้อง ใช้ เวลายาวนาน คุณ สามารถ เร่ง การเจรจาต่อรองได้ ด้วยการ ทำ หน้าที่ในกระบวนการหลัก ที่ ทำ ให้ ทุกคนมุ่งเน้นรับรู้ในร่างข้อตกลงเรื่องเดียวกัน ขั้นแรก ระบุเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ชัดเจน ตอ่มา ระบุคนที่ตัดสินใจในห้องได้ ส่วนคนอื่น ๆ อาจเป็นเพียงที่ปรึกษา หรือ ผู้ ที่ ต้อง ทราบ เกี่ยวกับ การ ตัดสินใจ หลังจากนั้นหาคนร่างข้อตกลงเบื้องต้น ให้เป็นคน ที่ รับ ผิดชอบ ใน การ ร่างข้อตกลง และ การ แก้ไขปรับปรุง ข้อตกลง   การมีคนร่างข้อตกลงจะได้ รับความ สนใจ จาก ทุก ฝ่าย   และการ สร้าง แบบ ร่างข้อตกลง คร่าว ๆ  ได้   ทำให้ทุกคน สามารถ เสนอเห็น ข้อดีข้อเสีย และให้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ รวมทั้งคนร่างข้อตกลงจะสามารถทบทวน แก้ไข   หลังจากผ่านการแก้ไข สอ

เปลี่ยนคำถามคำตอบที่น่าเบื่อในการประชุม

คำถามและคำตอบจำนวนมากล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ไม่ใช่ว่านักพูดทุกคนจะตั้งคำถามได้ดีได้เก่ง และไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และไม่ใช่ว่าทุก คำถามจะมีคนส่วนมาก เกี่ยวข้องด้วย   แต่โชคดี    มี วิธี การ ทำให้การประชุม นี้ ดีกว่า : เปลี่ยนวิธีการตั้งคำถามและขอคำตอบ ให้ผู้พูดตั้งคำถามกับผู้ฟัง แล้วปล่อยให้พวกเขาพูดคุยกันเอง เพื่อค้นหาคำตอบ/อภิปรายผล ขอคำตอบ ไม่ใช่เพียงแค่ คำถาม เชิญชวนทุกคนมาร่วม สังเกตการณ์ ให้มี คำถาม เรื่องน่ารู้ ของ คน ใน กลุ่ม   ขอให้ คน คิด คำถาม ที่ ดี   ที่เกี่ยวข้องกับคน ใน กลุ่ม ขอ ตัว อย่างคำถาม/คำตอบ บอก เรื่องราว สุดท้าย หลังจากคำถามและคำตอบ หยุดคำถามและคำตอบในเวลาอีกไม่กี่นาที ก่อนสิ้นสุดการประชุมร่วมกัน ด้วยการบอกตัวอย่างสุดท้าย แม้ว่าจะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าก็ตาม แต่คุณก็ยังสามารถจบการประชุมด้วยความสนุกสนาน แทนการจบการประชุมแบบคว้าน้ำเหลว The Management Tip of the Day from Harvard Business Review October 30, 2014 Turn Your Boring Q&A Session Around A lot of Q&As fall flat. Not all speakers are good at

อย่าเครียดกับมีเครือข่ายสังคม

การมีเครือข่ายสังคมไม่ใช่เรื่องของ ธรรมชาติ   แต่เป็น การ ค้นหา ชุมนุมภายในเครือข่ายสังคม ที่ เหมาะสมกับ จุดแข็งและความสนใจ ของคุณ จะทำให้มีเครือข่ายสังคมที่ ประสบความสำเร็จ มาก ขึ้น และ สนุกสนานร่วมไปกับชุมชนในเครือข่ายสังคม อย่า บังคับตนเองให้ต้องรับรู้ทุกเรื่องทุก เหตุการณ์ ที่เกี่ยวกับหรือกระทบกับเครือข่ายสังคม ตรวจสอบ ให้ แน่ใจว่า สภาพแวดล้อม/ชุมชนเครือข่ายสังคม เหมาะสมกับการ ทำงานของ คุณ   ถ้า คุณ ไม่ ชอบภาวะการณ์ชุมชนที่ แออัด   ส่งเสียง/ข้อมูลประเดประดัง   ให้แล่นหลบหลีกไปจากชุมชนที่รั้งท้าย หรือหลังจากได้พบปะเสวนาแล้ว ถ้า คุณ ไม่ พบชุมชนที่ต้องการหรือ เหมาะสม ให้ สร้างชุมชน ของตนเอง หาคนที่ มา ร่วมกันมีความแตกต่าง  "กลุ่มที่มีความสนใจ "  มาจาก เพื่อนร่วมงาน ที่ ทำงาน ในวิชาชีพเดียวกัน หรือคนที่เคยพบปะพูดคุยในการ ประชุม   และ ให้ แน่ใจว่า จะเป็นการดี ที่ ดีที่ สุดสำหรับ คุณ ถ้า คุณไม่ ได้เป็นคนเริ่มต้น อย่าตอบรับคนกว่า  500 คนเป็นเครือข่ายสังคม เหมือนกับการร่วมวงกินอาหารเช้า เพราะทุกเรื่องราวที่รับรู้มีต้นทุนแฝงอยู่เสมอ ในการติดตาม/วิเคราะห

ปรับปรุงพื้นที่ว่างเพื่อผลผลิตที่ดี

มีหลายบริษัทที่ใช้พื้นที่ว่าง เพื่อ ส่งเสริม นวัตกรรม และ ความร่วมมือ   การ ออกแบบ สำนักงาน เพื่อ ปรับปรุง วัฒนธรรม องค์กร  ขั้นตอนการทำงาน และ ความพึงพอใจ ของ พนักงาน   ให้คิดมากขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับ วิธี การ ตอบสนอง ความต้อง การ ของพนักงาน โดยตรง   เริ่มต้น ด้วย : ใช้ทรัพยากรภายในโดยตรง ใช้ อินทราเน็ต ของบริษัท หรือ เครื่องมือ สื่อสาร ภายใน อื่น ๆ  เป็น วิธีการตั้งคำถาม สำหรับ พนักงาน ทุก คน  เพื่อ ถาม คำถามที่ ยาก   หรือถาม ความคิดเห็น เกี่ยวกับ สภาพแวดล้อม ของ สำนักงาน จัดการข้อมูลให้มากขึ้น วัด เวลา ปริมาณงาน สูงสุด และ คิดเกี่ยวกับ ว่า  ทำอย่างไรพื้นที่ว่าง ของคุณ สามารถ สนับสนุนให้ฝ่ายงานต่าง ๆ ผสมผสานการทำงานร่วมกัน ในเวลาที่ปริมาณงานน้อย ปรับปรุง พื้นที่ยอด นิยมพนักงาน และปรับปรุง ห้อง ประชุมอย่างไม่เป็นทางการ บาร์ กาแฟ  โต๊ะกลุ่มต่าง ๆ  และ ห้อง เงียบสงบสติอารมณ์ จะได้ ใช้ พื้นที่มีผลผลิตมาก กว่า การใช้ ห้อง ประชุมที่ไม่ มีประโยชน์ รวม เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เทคโนโลยี ห้อง ประชุม สามารถ แจ้งให้ พนักงาน ทราบว่ามี ห้อง ว่าง เพื่อให้พ

บอกทีมงานว่าเราลงเรือลำเดียวกัน

พวกเรามักจะมีอะไรติดอยู่ในใจ ที่ต้องการจ ะ ทำงาน ร่วมกัน   จากงาน วิจัย พบ ว่า  ความรู้สึก ของ การ ทำงาน ร่วมกัน สามารถ นำ ไปสู่ แรงจูงใจ มากขึ้น    ความผูกพัน และ ประสิทธิภาพการ ทำงาน   แต่ในทางเปรียบเปรย ขณะ เป้าหมาย ทีมงาน เป้าหมาย จะถูกตัดสินด้วยศักยภาพของทีมงาน แต่มีบางคนในทีมที่ทำงานอย่างแท้จริง แน่นอน   โครงการ เสร็จสิ้นภาย ใน ทีมงาน แต่งาน ส่วนใหญ่ ที่ เรา ทำทุก วันนี้ ยังคงเป็นการ รับไป ทำเพียง คนเดียว แต่ยังมี วิธีการ มีประสิทธิภาพ ที่ทำให้ พนักงาน รู้สึก เหมือนว่า พวกเขากำลัง ทำงาน เป็น ทีม   แม้ ใน ทางเทคนิคแล้วจะไม่ใช่ ให้ พูด คำ  " ร่วมกัน "   สัญลักษณ์ ทางสังคม มีประสิทธิภาพ ทำให้สมองหรือจิตใจส่งสัญญาณเตือนประจำ ว่าคุณเป็นเจ้าของงานด้วย  คุณกำลังสัมพันธ์ด้วย และคนอื่น ๆ ที่คุณเชื่อถือไว้วางใจด้วย ผู้จัดการ ควรใช้คำคำนี้ ด้วยความถี่ของคำ ใช้คำคำนี้ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง โดยการเน้นย้ำว่า คุณ และ พนักงาน ของคุณ ต่างทำงานร่วมกันเพื่อความก้าวหน้าร่วมกัน พวกเขาจะ รู้สึกว่า พวกเขา ไม่ได้โดดเดี่ยว และ จะ เป็นการกระตุ้นให้พวกเขาทำให้ ดีที่ สุด

อย่าเพิ่งใช้การตลาดแบบปากต่อปาก

นักการตลาดหลายคนทำเรื่อง ผิดพลาดอย่างมาก เมื่อ พยายาม ที่ จะ ทำให้ข่าวการตลาดไปแบบปากต่อปาก หนึ่งในนั้นคือ พวกเขา ล้มเหลวกับ การ พัฒนา ความสัมพันธ์ กับ ผู้ เผยแพร่ เนื้อหาต่อไป ในการ เริ่มต้น  ให้ หยุด ใช้การใช้คำพูดบ่ง บอก/ แฝงเร้น เช่น "ผู้ชม "ผู้ บริโภค หรือ "กลุ่มเป้าหมาย"  แต่ให้ เรียก คน สำคัญ ที่มีส่วน ร่วม "ผู้ทวีคุณค่า"  หยุดเน้นเนื้อหากับเรื่องแบบปากต่อปาก มันเป็นเรื่องชั่วแล่น(ประเดี๋ยวประด๋าว) บรรดาคนที่ เห็น วิดีโอ ร่วมกัน  เห็นบาง ส่วนของเรื่อง เพราะนักการตลาดไม่สามารถแจงนับระบุว่าเป็นใครได้ ความสัมพันธ์จะ สิ้นสุดเพียงแค่นั้น ด้วยการมีผู้ทวีคุณค่า ของคุณเอง ให้รู้จักกับ พวกเขา ส่งเสริม ให้พวกเขาแชร์เรื่องราวบ่อย ๆ คุณ ไม่ จำเป็น ต้องให้ เงิน รางวัล  ทำความรู้จักพวกเขา อย่างเปิดเผย   โดยการให้ความสำคัญพวกเขา บน เว็บไซต์ ของคุณ หรือ ตอบสนองพวกเขาบนเครือข่ายออนไลน์ มักจะ เป็น เพียงพอ ที่ จะ สร้าง ความผูกพัน การได้รับ ที่ อยู่ อีเมล์ ของพวกเขา เพื่อให้ คุณ สามารถสร้างความสัมพันธ์ อย่างลึกซึ้ง เพิ่มเติม กับ การ ปรับปรุ