ผู้นำต้องเป็นทั้งพระเป็นทั้งมาร

ผู้นำมักจะถามตนเองว่าจะเป็นการดีหรือไม่
ที่เล่นบทพระหรือบทมาร(บทบาทใจร้ายหรือใจดี)
ถ้าเล่นบทใจร้ายจะเสมือน  คนขับรถ
สามารถผลักดันให้ลูกน้องทำงาน
ภายใต้กฎเกณฑ์ที่วางมาตรฐานไว้
ถ้าเล่นบทใจดีจะเสมือน  คนนำร่อง
จะสามารถเข้าใจความต้องการของปัญหา
ปัญหาต่าง ๆ  เรื่องที่น่าความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย

มันจึงเป็นทางเลือกที่ยาก
แล้วรูปแบบบริหารแบบอื่น ๆ
เช่น การมีส่วนร่วมของพนักงาน?  

ผลการศึกษาพนักงาน 160,576 คน
ที่เป็นลูกน้องของเจ้านาย 30,661 คน

เจ้านายเล่นบทใจร้ายมีผลงาน
เหนือกว่าเจ้านายเล่นบทใจดี
8 % ของลูกน้องเจ้านายใจร้าย
มีส่วนร่วมในการทำงานมากกว่า

ลูกน้องเจ้านายใจดีที่ได้เพียง 6%
สรุป ผู้นำใจร้ายมีชัยเหนือผู้นำใจดี ใช่หรือไม่ ?
 

อย่าเพิ่งด่วนสรุป
เพราะผู้นำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
จะเล่นทั้งสองบทบาท

คือบทใจร้ายกับบทใจดีถึง 68%
แน่นอนที่ 68%
ในการทำให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการทำงานอย่างมาก

เรื่องราวแบบนี้น่าประทับใจยิ่งนัก

เีรียบเรียงจาก The Daily Idea from Harvard Business Review, September 12, 2013
The Best Leaders Are Both Tough and NiceLeaders often ask themselves whether it's best to be tough or nice. If you're tough — a "driver" — you can push people to go beyond the limits of their abilities. If you're nice — an "enhancer" — you can better understand the needs, problems, and concerns of your charges. It's a hard choice. So which style results in the more highly-engaged employees? According study of 160,576 employees under the command 30,661 bosses, the tough-versus-nice battle is tight. Eight percent of tough-led employees are highly engaged. Nice? Six percent. So tough-minded leaders are the winner, right? Not so fast. The most effective leaders, it turns out, use both styles, and 68% percent — that's right, 68% — of their employees are highly engaged. That's impressive.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านรังนกนางแอ่น(กินรัง)

เรื่องเล่าจากคนทำป้ายสุสานจีน

ขอโทษทันทีเมื่อส่งอีเมล์ผิดพลาด