ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์-รถคนรวยมาเลย์

สมัยทำงานอยู่ปาดังเบซาร์
เคยถามเหล้าขาวว่า
ทำไมที่มาเลย์ไม่ค่อยเห็นรถกะบะ
เหล้าขาวตอบว่า
เธอไม่รู้หรือไง
ที่มาเลย์มีแต่คนรวยจริง ๆ เท่านั้น
ที่ขับรถยนต์กะบะ
ก็ยังงง ๆ อยู่คิดว่าเป็นไปได้อย่างไร
เพราะในประเทศไทยรถยนต์กะบะเป็นรถยนต์ทั่วไป
เป็นรถยนต์เอนกประสงค์
และคนระดับกลางที่ซื้อมาขับขี่
รวมทั้งตำรวจมักจะตรวจตรา/
ดูแลเป็นพิเศษกับคนขับรถยนต์ประเภทนี้



เหล้าขาวเลยเฉลยให้ฟังว่า
ที่มาเลย์น้ำมันดีเซล
จะถูกกว่าน้ำมันเบนซีนมาก
ช่วงนั้นลิตรละประมาณเจ็ดบาทกว่า
ตอนนี้ลิตรละประมาณสิบเจ็ดสิบแปดบาท
อัตราแลกเปลี่ยนคิดง่าย ๆ
สิบบาทไทยเท่ากับหนึ่งริงกิต (เหรียญมาเลย์)
ที่มาเลย์ชนชั้นปกครองมีความคิดในอีกแนวหนึ่งว่า
รถขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะใช้น้ำมันดีเซลเป็นหลัก
ถ้าน้ำมันดีเซลแพงขึ้นก็จะกระทบต่อค่าครองชีพคนทั่วไป
เพราะรถยนต์ประเภทนี้จะขนส่งสินค้าส่งให้กับคนทั่วประเทศ
ดังนั้นรัฐบาลจึงต้อง support น้ำมันดีเซลเป็นหลัก



ส่วนรถยนต์กะบะมักจะประกอบมาจากเมืองนอก
เพราะที่มาเลย์ไม่ได้ผลิตรถยนต์กะบะเลย
ผลิตแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อ โปรตอน (PROTON)
ที่เป็นของรัฐบาลสนับสนุน
เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเบนซีนเป็นหลัก
รถยนต์กะบะประเภทนี้สมัยก่อนจะใช้น้ำมันดีเซล
ทำให้ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ต่ำกว่า
เป็นการเอาเปรียบรัฐบาลและประชาชนทั่วไป
ดังนั้น ภาษีทะเบียนรถยนต์ประจำปีจะแพงกว่า
รถยนต์ทั่วไปมากคือ
ปีละสามหมื่นกว่าบาท
ขณะที่รถยนต์ทั่วไปไม่เกินกว่าปีละหนึ่งหมื่นบาท



รถยนต์กะบะที่มาเลย์ไม่เหมือนของไทย
คือใช้บรรทุกของข้างหลังไม่ได้เลย
ให้คนนั่งข้างหลังรถยนต์กะบะก็ไม่ได้
ดังนั้นจะเห็นว่าคนมาเลย์มาหาดใหญ่
จะริษยาคนไทยมาก
ที่กะบะบ้านเราเอนกประสงค์จริง ๆ
เวลาคนมาเลย์มาเที่ยวไทย
ชอบนั่งกันข้างหลังรถกะบะ
ยิ่งเวลามาเล่นสงกรานต์ที่หาดใหญ่
เพราะที่มาเลย์ห้ามนั่งโดยเด็ดขาด



ที่มาเลย์กฎหมายเข้มงวดมาก
ในการบรรทุกของ
หรือสินค้าต้องมีผ้าใบปิดคลุม
กันของตกของหล่นจากรถยนต์
เพื่อป้องกันอันตรายกับรถยนต์และบุคคลทั่วไป
กฎหมายปรับจะรุนแรงมาก
ดังนั้นการบรรทุกของจึงมักจะใช้รถยนต์บรรทุก
หรือรถยนต์ตู้ไว้สำหรับบรรทุกของโดยเฉพาะ
เพราะรถยนต์กะบะมาเลย์
ถือว่าเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
ต้องมีใช้ใบขับขีสาธารณะอีกหนึ่งใบประกอบด้วย



ยิ่งตามมอเตอร์เวย์จากเหนือสุดมาเลย์จนใต้มาเลย์
จะมีด่านเก็บเงินและวงจรปิดคอยจับความเร็ว
รถยนต์วิ่งเร็วเกินกำหนดหรือทำผิดกฎหมาย
จะมีการส่งใบปรับไปยังที่บ้านคนขับรถยนต์
ถ้าไม่ไปชำระค่าปรับ
จะต้องเจอที่สำนักงานขนส่ง
สำนักงานขนส่งจะให้ชำระค่าปรับให้เรียบร้อยก่อน
จึงจะต่อทะเบียนรถยนต์ประจำปีให้
ถ้าไม่มีการต่อทะเบียนรถยนต์ประจำปี
ถ้าถูกจับได้จะมีโทษจำคุกหรือปรับแพงมาก
การถูกติดคุกในมาเลย์จะเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะจะได้บัตรสีน้ำตาลไปตลอดชีวิตทีเดียว
เรียกว่า ไปไหนมาไหน
ชักบัตรสีน้ำตาล คนจะรู้เลยว่าติดคุกมาก่อน

ดังนั้นจึงมักจะมีคำพูดกันในมาเลย์ว่า
ถ้าขับรถยนต์กะบะป้ายมาเลย์
ไปสู่ขอลูกสาวบ้านไหน
พ่อตากับแม่ยาย
รับรองจะรีบปูพรมแดงต้อนรับทันที
เพราะเชื่อแน่ว่าต้องรวยจริง ๆ
เนื่องจากการใช้งานเพียงแค่นั่งกันภายในรถยนต์เท่านั้น
บรรทุกของอะไรก็ไม่ได้เลย
เรื่องนี้ยืนยันได้จาก ไกด์ชาวสยามในมาเลย์
และเพื่อนคนไทยที่เปิดร้านต้มยำกุ้งในกัวลาลัมเปอร์

เมื่อถามเหล้าขาวว่าแล้วรถแพง ๆ แบบไทยมีไหม
เช่น BMW, Benz
เหล้าขาวบอกว่ามีเยอะแยะ
และคนจีนมาเลย์มักจะเรียกว่า Benz ว่า มาซีดี้
เหล้าขาวยังบอกว่า
ภาษีรถยนต์ประจำปี
ยังต่ำกว่ารถยนต์กะบะอยู่ดี
แต่ราคารถยนต์นอกที่ขายในมาเลย์
ยังขายแพงกว่าราคาในประเทศไทย
เพราะภาษีนำเข้าที่มาเลย์ควบคุมไว้
เพื่อไม่ให้ราคาขายถูกกว่ารถยนต์ประจำชาติยี่ห้อ โปรตอน

ส่วนการซื้อรถยนต์ที่มาเลย์
ไม่ใช่ใครมีเงิน
จะกำเงินสดเงินดาวน์ไปซื้อรถยนต์ได้เลย
ต้องมีการตรวจสอบประวัติการเงิน
ที่มาที่ไปของรายได้มาจากไหน
มีการเสียภาษีย้อนหลังถูกต้องก่อน
จึงจะได้รับอนุมัติให้ซื้อรถยนต์ได้

ดังนั้นการดาวน์แบบไทยไม่กี่หมื่นกี่แสน
แล้วสามารถเอารถยนต์ไปขับเลย
ที่มาเลย์ทำไม่ได้เลย
ถ้าผู้ค้าขายรถยนต์รายใดทำ
จะมีโทษหนักมาก
รวมทั้งคนซื้อรถยนต์จะถูกลงโทษเช่นกัน
ตอนไปจดทะเบียนที่สำนักงานขนส่ง



หมายเหตุ
รถยนต์กะบะที่ขนของท้ายรถยนต์ได้
ต้องมีฝาปิดแบบนี้(ของเมืองไทยตอนนี้ก็มี)
ดูแล้วไม่เท่ห์เหมือนรถยนต์กะบะเปิดท้ายแบบบ้านเรา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านรังนกนางแอ่น(กินรัง)

เรื่องเล่าจากคนทำป้ายสุสานจีน

ขอโทษทันทีเมื่อส่งอีเมล์ผิดพลาด